Privacy Policy

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท มอร์ฟิล์ม จำกัด

เครือ อ.เฉลิม เอ็นเตอร์ไพรส์ (“บริษัทฯ” “เรา” หรือ “ของเรา”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ จะพยายามดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยความระมัดระวังและอย่างสมเหตุสมผลในการมอบประสบการณ์และการให้บริการท่านอย่างดีที่สุดให้แก่ท่านโดยเฉพาะ

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบายความเป็นส่วนตัว”) ครอบคลุมถึง เว็บไซต์ แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ศูนย์บริการลูกค้า ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ช่องทางการสื่อสารทางออนไลน์ ตลอดจนสถานที่อื่น ๆ ที่ได้มีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม กรุณาอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ควบคู่กับข้อตกลงและเงื่อนไขสำหรับบริการเฉพาะดังกล่าวที่ท่านใช้  (ซึ่งอาจมีกำหนดไว้แยกต่างหากตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บจากท่าน)

บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว ดังนั้น โปรดตรวจสอบเป็นประจำเพื่อดูว่านโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้รับการแก้ไขครั้งล่าสุดเมื่อใด การเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะมีผลทันทีเมื่อเราเผยแพร่นโยบายความเป็นส่วนตัวที่แก้ไขดังกล่าวลงในเว็บไซต์ เราจะแจ้งให้ท่านทราบหากมีการแก้ไขหรือปรับปรุงที่สำคัญ ส่วนกรณีเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่เป็นการลิดรอนสิทธิของท่านในส่วนของข้อมูลที่ละเอียดอ่อนตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บริษัทจะดำเนินการเพื่อขอความยินยอมจากท่านก่อน เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดเป็นอย่างอื่น เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้


ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

คณะกรรมการ (Committee) หมายถึง คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลชีวภาพ (Biometric Data) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิคหรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพหรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา หรือ ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ

ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของบุคคลแต่มีความละเอียดอ่อนและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม จึงจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ

เจ้าของข้อมูล (Data Subject) มีความหมายในลักษณะเป็นบุคคลที่ข้อมูลนั้นบ่งชี้ไปถึง ไม่ใช่เป็นเจ้าของในลักษณะทรัพยสิทธิ หรือเป็นคนสร้างข้อมูลนั้นขึ้นมา

การประมวลผลข้อมูล (Processing) หมายถึง การดำเนินการหรือชุดการดำเนินการใดๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบ จัดโครงสร้าง เก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวางหรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย (GDPR Article 4(2))

ความยินยอม (Consent) หมายถึง ข้อบ่งชี้ใดๆ ที่ได้รับอย่างเฉพาะเจาะจง ชัดแจ้ง ไม่เป็นที่น่าสงสัย ตามความปรารถนาของเจ้าของข้อมูล โดยคำสั่ง หรือการกระทำที่ชัดเจน หรือการยืนยันความตกลงในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer or “DPO”) หมายถึง บุคคลที่มีความเป็นอิสระ มีความเชี่ยวชาญด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและมีหน้าที่รายงานต่อผู้บริหารระดับสูง เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลช่วยให้คำแนะนำแก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลในการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย แจ้งและให้คำแนะนำเกี่ยวกับภาระหน้าที่ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการประเมินผลกระทบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPIAs) และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการติดต่อสำหรับเจ้าของข้อมูลและหน่วยงานกำกับดูแล


1. ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดบ้างที่เราเก็บรวบรวม

บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งรวมถึง รายละเอียดส่วนบุคคลที่ระบุตัวตนของท่าน เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น เพศ อายุ วันเกิด อาชีพ ตำแหน่งงาน รายละเอียด และ/หรือ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรที่ออกโดยหน่วยงานราชการ หมู่เลือด รูปถ่าย ลายมือชื่อ และข้อมูลอื่นใดที่ท่านเลือกที่จะแบ่งปันให้แก่บริษัทฯ ซึ่งอาจถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่ รหัสไปรษณีย์ อีเมล อีเมลของบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ทางธุรกิจ และที่อยู่ทางธุรกิจ (ซึ่งรวมถึงเมือง รหัสไปรษณีย์ และประเทศ) ข้อมูลการเงิน เช่น เงินเดือน ช่วงเงินเดือน สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน สถาบันการเงินที่ท่านเลือกใช้ และรายละเอียดภายใต้เอกสารคำขอสินเชื่อ ข้อมูลเกี่ยวกับยานพาหนะ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ อาทิ เลขทะเบียนรถ และรุ่นรถยนต์ ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการ วันที่ใช้บริการ ประวัติการติดต่อ (ระหว่างท่านกับบริษัทฯ) ความพึงพอใจของลูกค้าต่อบริการที่ใช้ของเรา และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้อง ข้อมูลอื่นๆ เช่น ความคิดเห็น คำถาม การสอบถาม ข้อร้องเรียน คำตอบสำหรับแบบสอบถาม ความชื่นชอบ ความสนใจ หรืองานอดิเรก และ ข้อมูลอ่อนไหว เช่น ศาสนาในบัตรประจำตัวประชาชน เชื้อชาติในเอกสารการยืนยันตัวตน และ ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า และข้อมูลจำลองม่านตา) ข้อมูลที่บริษัทฯเก็บรวบรวมเกี่ยวกับท่านสำหรับการให้บริการ การจัดหาผลิตภัณฑ์ บริษัทฯอาจเก็บรวบรวมข้อมูลต่อไปนี้จากการที่ท่านใช้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทฯผ่านช่องทางการสื่อสารของบริษัทฯ หรือจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ โดยอัตโนมัติ ซึ่งอาจรวมถึง ข้อมูลที่ระบุตัวตน เช่น ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว รูปภาพ และ/หรือ เสียง ความสนใจ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ท่านเลือก โครงการที่กำลังจะเกิดขึ้น ข้อมูลด้านพฤติกรรม เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้แอปพลิเคชันของท่าน (ซึ่งรวมถึง วันและเวลาที่ใช้ เวลาที่ตอบสนองต่อเพจ ความผิดพลาดในการดาวน์โหลด และข้อมูลเกี่ยวกับโฆษณาที่ท่านดูและข้อมูลอื่นๆ ที่บริษัทฯเก็บรวบรวม) หรือข้อมูลการใช้สิทธิเรียกร้องที่เกี่ยวกับช่องทางการสื่อสาร ผลิตภัณฑ์ และบริการ ข้อมูลทางเทคนิค เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ตของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ขององค์กร (เช่น ผู้ใช้แต่ละรายเข้าเว็บไซต์อะไรบ้าง ดาวน์โหลดเอกสารอะไรบ้าง เหตุการณ์ด้านความปลอดภัย มาตรการป้องกันโดยเกตเวย์ ฯลฯ) ข้อมูลกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่เนื้อหา การสร้างเป้าหมายหรือการใช้เอกสารที่ได้รับการคุ้มครองบนเว็บไซต์ เช่น การเปลี่ยนการอนุญาตและข้อมูลของเอกสารเกี่ยวกับบุคคลที่กระทำกิจกรรมดังกล่าว และคุกกี้ เมื่อท่านเข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน อาจจะมีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับบริการที่ท่านใช้ และวิธีการที่ท่านใช้บริการดังกล่าว บริษัทฯอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัวของท่านหรือบุคคลอื่น เช่น ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ตัวแทน/ผู้แทน ผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งรวมถึง ชื่อ และหมายเลขโทรศัพท์/โทรศัพท์มือถือของบุคคลดังกล่าว และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับบุคคลใดที่ท่านได้ให้ไว้แก่บริษัทฯในทุกรูปแบบ ในการให้ข้อมูลของบุคคลที่สามแก่บริษัทฯ ท่านรับรองและรับประกันว่าท่านมีอำนาจในการกระทำการดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทฯใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ นอกจากนี้ ท่านยังมีหน้าที่ในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น หากจำเป็น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯจะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยมี วัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยในการเก็บรวบรวมนั้นจะทำเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทฯเท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทฯจะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูลรับรู้ให้ความยินยอมทางอิเล็กทรอนิกส์หรือตามแบบวิธีการของบริษัทฯ กรณีที่บริษัทฯจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูล บริษัทฯจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยชัดแจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวจะเข้าข้อยกเว้นตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือกฎหมายอื่นกำหนดไว้


2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก 2 ช่องทาง ดังนี้

    1. ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยอาจเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้แก่บริษัทฯโดยตรง หรือให้ผ่านบริษัทฯ หรือมีอยู่กับบริษัทฯทั้งที่เกิดจากการใช้ และ/หรือรับจ้าง และ/หรือติดต่อ บริการ ติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านช่องทางดิจิทัล สำนักงาน เว็บไซต์ Call Centre ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือช่องทางอื่นใด

    2. ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากท่านโดยตรง เช่น หน่วยงานของรัฐ สถาบันการเงิน พันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทข้อมูลเครดิต คู่ค้า คู่สัญญา และผู้ให้บริการข้อมูล เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯจะเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่นต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่บริษัทฯมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต

3. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล
บริษัทฯจะทำการเก็บรวบรวม หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของบริษัทฯเช่น การทำสัญญา การทำธุรกรรมทางการเงิน การดำเนินกิจกรรมบริษัท การติดต่อประสานงานต่างๆ หรือเพื่อปรับปรุงคุณภาพการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การจัดทำฐานข้อมูล วิเคราะห์และพัฒนากระบวนการดำเนินงานของบริษัท และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และ/หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยบริษัทฯจะจัดเก็บและใช้ข้อมูลดังกล่าวตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งท่านหรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น ท่านจะได้รับการแจ้งเมื่อบริษัทฯมีการขอเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล อนึ่ง ในการได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมานั้น บริษัทฯจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ที่กล่าวมาเฉพาะเมื่อเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้
    1. ท่านได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัทฯตามกฎหมาย
    2. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
    3.เป็นการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ สุขภาพของบุคคล
    4.เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจที่รัฐได้มอบหมายให้แก่บริษัทฯ
    5.เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    6.เป็นความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย มีการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ โดยบริษัทฯจะจัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน

บริษัทฯจะไม่กระทำการใด ๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูล เว้นแต่
    1. ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้ท่านทราบ และได้รับความยินยอมจากท่านเจ้าของข้อมูล
    2.เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในเครือข่ายของบริษัทฯ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้อธิบายข้างต้น บริษัทฯจะดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวเพื่อให้แน่ใจว่าการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลจำกัดเฉพาะพนักงานและตัวแทนของบริษัทฯเท่านั้นโดยอาศัยพื้นฐานของความจำเป็นต้องรู้ข้อมูล (need-to-know basis) นอกจากนี้บริษัทฯอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกเครือข่ายของบริษัทฯให้แก่บุคคลต่อไปนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายนี้

(ก) ภายในกลุ่ม: บริษัทแม่ บริษัทย่อย และบริษัทในเครือ บริษัทฯอาจจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรืออนุญาตให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้นแก่บริษัทอื่นภายในกลุ่มเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทอื่นๆ ภายในกลุ่มสามารถอาศัยความยินยอมที่บริษัทฯได้รับมาจากท่าน

(ข) พันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อประกอบธุรกิจและบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ บริษัทฯ อาจเปิดเผยแก่และได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งรวมถึง พันธมิตรของบริษัทฯที่ขายผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯให้แก่ท่าน หรือผู้ที่เสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการร่วมกับบริษัทฯ หรืออาจมีการเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการของพันธมิตรเหล่านี้ให้แก่ท่าน

(ค) ตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้ง ในบางครั้งบริษัทฯอาจเปิดเผยและได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากตัวแทนของบริษัทที่ได้รับแต่งตั้ง เพื่อให้บริการแก่ท่าน

(ง) ผู้ให้บริการ / ผู้จัดหาผลิตภัณฑ์/บริการ / ผู้รับจ้างช่วง บริษัทฯอาจใช้บริการของบริษัทตัวแทน หรือผู้รับจ้างอื่นในการให้บริการแทนบริษัทฯหรือเพื่อช่วยเหลือในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่า บริษัทฯอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับผู้ให้บริการหรือผู้จัดหาผลิตภัณฑ์/บริการจากภายนอกของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ
  (1) ผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศ
  (2) ผู้ให้บริการวิเคราะห์หรือทำวิจัย เช่น กูเกิล
  (3) บริษัทที่ให้บริการวิเคราะห์เชิงสถิติ
  (4) บริษัทที่ให้บริการสำรวจ
  (5) บริษัทที่ให้บริการการตลาด สื่อโฆษณา การออกแบบ การสร้างสรรค์ และการสื่อสาร
  (6) ผู้จัดแคมเปญ งานกิจกรรม และการตลาด
  (7) ผู้ให้บริการด้านการบริหาร และ
  (8) ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์

(จ) ที่ปรึกษาจากภายนอก ซึ่งรวมถึง ทนายความ ช่างเทคนิค สำนักงานบัญชี นักบัญชี และผู้ตรวจสอบบัญชีซึ่งช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

(ฉ) บุคคลที่สามตามที่กฎหมายกำหนด ในบางกรณี บริษัทฯอาจต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ ซึ่งรวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย (เช่น กรมการขนส่งทางบก กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) ศาล ผู้บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานรัฐบาล หรือบุคคลที่สามอื่นๆ หากบริษัทฯเชื่อว่ามีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามภาระผูกพันตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ หรือต้องปกป้องสิทธิขอบริษัทฯ สิทธิของบุคคลที่สาม หรือความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง หรือความปลอดภัย

(ช) โรงพยาบาลและหน่วยกู้ภัย อาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีฉุกเฉินเพื่อปกป้องประโยชน์ของท่าน

(ซ) ผู้รับโอนสิทธิและ/หรือภาระหน้าที่ ในกรณีที่มีการฟื้นฟูกิจการ การควบรวมกิจการ การโอนธุรกิจ ไม่ว่าส่วนหนึ่งหรือทั้งหมด การขาย การซื้อ การร่วมลงทุน การมอบ การโอน หรือการจำหน่ายส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของธุรกิจของบริษัทฯ ทรัพย์สินหรือหุ้น หรือธุรกรรมที่คล้ายกัน ทั้งนี้ บุคคลที่สามในฐานะผู้รับโอนสิทธิของบริษัทฯจะปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(ฌ) แหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ เช่น เว็บไซต์ โฆษณา และ/หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

5. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผลเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หากมีการดำเนินการทางกฎหมายหรือทางวินัย อาจต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้จนกว่าการดำเนินการนั้นจะสิ้นสุด ซึ่งรวมถึงระยะเวลาที่เป็นไปได้ในการยื่นอุทธรณ์ด้วย หลังจากนั้นข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกลบหรือเก็บถาวรตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาต

6. สิทธิของเจ้าของข้อมูล
ท่านมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้
(1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม: ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ
(2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัทฯทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทฯได้
(3) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง: ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
(4) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯทำการลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
(5) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
(6) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือ ตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้
(7) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้ ท่านสามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล/เจ้าหน้าที่ฝ่ายของบริษัทฯได้ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ (รายละเอียดการติดต่อปรากฏในหัวข้อ “ช่องทางการติดต่อ” ด้านล่างนี้) ทั้งนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการดำเนินตามสิทธิข้างต้น โดยบริษัทฯจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของท่านภายใน 60 วันนับแต่วันที่บริษัทฯได้รับคำร้องขอดังกล่าว

7. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และ กฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว บริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการอัพเดทข้อมูลลงในเว็บไซต์ของบริษัทฯโดยเร็วที่สุด

8. ช่องทางการติดต่อ

รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูล เครือ อ.เฉลิม เอ็นเตอร์ไพรส์
สถานที่ติดต่อ: สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 88/8 หมู่ 5 ตำบลคลองจินดา อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73110
อีเมล: info@acnpgroup.com เว็บไซต์: www.acnpgroup.com  ไลน์ @acnp

9.การละเมิด
การละเมิดหรือฝ่าฝืนนโยบายนี้ อาจส่งผลให้มีการลงโทษทางวินัยรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการเลิกจ้างหรือเลิกสัญญาและการลงโทษทางอาญาและ/หรือทางแพ่งตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ปรับปรุงล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2565